วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551

การทำคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์

นามนับได้ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด


  1. นามเอกพจน์ (Singular)

  2. นามพหูพจน์ (Plural)

มีหลักการทำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์ดังนี้


1. โดยทั่วไปเติม s ได้เลย เช่น

hand - hands = มือ

girl - girls = เด็กผู้หญิง

cup - cups = ถ้วย

thing - things = สิ่งของ

house - houses = บ้าน

chair - chairs = เก้าอี้

bird - birds = นก

dog - dogs = สุนัข

cat - cats = แมว


2. ถ้าคำนามนั้นลงท้ายด้วย o, s, sh, ch, x, z ให้เติม es เช่น

mango - mangoes = มะม่วง

box - boxes = กล่อง

match - matches = ไม้ขีดไฟ

brush - brushes = แปรง

glass - glasses = แก้ว(แว่นตา)

topaz - topazes = บุษราคัม


3. ถ้าคำนามลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น

copy - copies = สำเนา

fly - flies = แมลงวัน

country - countries = ประเทศ

lady - ladies = สุภาพสตรี

baby - babies = เด็กทารก

city - cities = เมือง


4. คำที่ลงท้ายด้วย y หน้า y เป็น สระ (a e i o u) ให้เติม s ได้เลย เช่น

key - keys = ลูกกุญแจ

boy - boys = เด็กผู้ชาย

day - days = วัน

play - plays = ละคร

donkey - donkeys = ลา(สัตว์)

toy - toys = ของเล่น


5. คำที่ลงท้ายด้วย f, fe ให้เปลี่ยน f, fe เป็น v แล้วเติม es เช่น

knife - knives = มีด

thief - thieves = ขโมย

wife - wives = ภรรยา

half - halves = ครึ่ง

leaf - leaves = ใบไม้

life - lives = ชีวิต


* ข้อยกเว้น ถึงแม้จะลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้เติม s ได้เลย เช่น

roof - roofs = หลังคา

safe - safes = ตู้นิรภัย

chief - chiefs = หัวหน้า

handkerchief - handkerchiefs = ผ้าเช็ดหน้า


6. นามบางคำทำเป็นพหูพจน์ได้โดยการเปลี่ยน สระภายใน เช่น

foot - feet = เท้า

tooth - teeth = ฟัน

ox - oxen = วัว

man - men = ผู้ชาย

child - children = เด็ก, ลูก

woman - women = ผู้หญิง

mouse - mice = หนู

goose - geese = ห่าน

louse - lice = เหา


ข้อสังเกต คำว่า "staff" แปลว่า คณะทำงาน ถ้าใช้เป็นพหูพจน์ไม่นิยมเติม s แต่คนส่วยใหญ่มักเข้าใจผิดและเติม s เสมอ การเติม s ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเจ้าของภาษาจะไม่เติม s เลย นักเรียนควรจำไว้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น